วันอังคารที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

Week8 : Review แนะนำการใช้โปรแกรม



LINE PC 

LINE PC


LINE PC (โหลดโปรแกรม LINE บน PC ภาษาไทย) : ในยุคสมัยนี้นั้น หากพูดถึงโปรแกรม LINE บน พีซี ตัวนี้ต้องขอเกริ่นนำก่อนว่า หลายๆ คนคงจะรู้จัก แอพไลน์ (LINE App) ที่เป็น โปรแกรมแชท (Chat) พูดคุยบน โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน แจกฟรี ชื่อดังของโลก (คู่แข่ง WhatsApp) พัฒนาโดยทีมผู้พัฒนาจากประเทศญี่ปุ่น ที่ได้เปิดตัวโปรแกรม ในวันที่ 23 มิถุนายน ค.ศ. 2011 ปัจจุบันมีคนใช้งานมากกว่า 600 ล้านคน จาก 231 ประเทศทั่วโลก ซึ่งดูยิ่งใหญ่และเยอะมากๆ เลยทีเดียว

   หากใครเป็นผู้ใช้ โทรศัพท์มือถืออย่าง Android หรือบน iOS คงรู้จัก แอพพลิเคชั่น หรือเคย โหลด LINE เป็นอย่างดีอยู่แล้ว แต่ว่า ตัวที่คุณกำลังจะดาวน์โหลดต่อไปนี้เป็น โปรแกรมที่จะทำให้คุณสามารถติดต่อกับเพื่อนของคุณผ่านคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ (Desktop Computer) กันได้อย่างอิสระ โดย LINE บน PC ตัวนี้จะสามารถทำได้ทุกอย่างเหมือนกับ แอพฯ LINE บนสมาร์ทโฟน เช่น แชท (Chat) ข้อความ ส่ง LINE Sticker น่ารักๆ และอื่นๆ
แต่อย่างไรก็ตาม โปรแกรมนี้ก็ยังมีหลายฟังก์ชั่นที่ไม่สามารถทำบน PC ได้ แต่บางส่วนเท่านั้น โดยก่อนที่จะใช้โปรแกรมคุณจะต้องลงทะเบียนอีเมล์ผ่านสมาร์ทโฟนก่อน (เปิดแอพฯ LINE > Settings > Email Registration) เพียงขั้นตอนสั้นๆ แค่นี้ คุณก็สามารถใช้โปรแกรมแชท LINE PC (LINE for PC)ไปพูดคุยกับเพื่อนบนคอมพิวเตอร์ เครื่องโปรดของคุณได้เลย (ดูวิธีการลงทะเบียนด้านล่าง)
   โปรแกรมถูกพัฒนาและออกแบบมาให้สามารถใช้งานกันบนระบบปฏิบัติการ Windows ทุกรุ่น หากใครใช้ Windows 8 ขอแนะนำให้ ดาวน์โหลดไปในรูปแบบของ แอพพลิเคชั่นไปเลย (ลิงค์ดาวน์โหลด แจ้งเอาไว้แล้วในหน้าถัดไป) รวมถึงใครที่ใช้เครื่อง Mac ก็มีให้ ดาวน์โหลด ไปใช้ไปติดตั้งด้วยเช่นกัน และ เวอร์ชั่นล่าสุด สนับสนุนการใช้งานภาษาไทย เต็มรูปแบบแล้ว




โปรแกรมใหม่ที่พบได้ใน Line PC
  • มีฟังก์ชั่นชื่อว่า "See Through (ซีทรู)" ของโปรแกรมสามารถทำหน้าจอให้โปร่งใส เพื่อมองทะลุโปรแกรมได้ สามารถปรับระดับความโปร่งใสได้ตามต้องการ จุดประสงค์เพื่อไม่ให้เป็นการ รบกวนการทำงาน และ การใช้งานทั่วไป สามารถปรับแยกได้ในแต่ละหน้าต่าง แต่ละคน หรือ แต่ละกลุ่มที่คุยกัน (ฟังก์ชั่นนี้เด็ดมาก)
  • สามารถส่งไฟล์ต่างๆ ไปมาได้อย่างโดยตรง โดยส่งไฟล์ได้ทุกประเภท เช่น ไฟล์ PDF ไฟล์จาก โปรแกรม Excel หรือโปรแกรม Word และอื่นๆ
  • สามารถส่งได้เช่นกัน ในขนาดไฟล์ ได้มีขนาดมากถึง 1,024 MB. หรือ 1 GB.
  • สามารถเปิดวีดีโอคลิป (Video Clip) ที่ถูกส่งมาได้เลย โดยไม่ต้องเซฟลงเครื่องแล้วใช้ โปรแกรมดูหนัง เปิดอีกทีเหมือนแต่ก่อนแล้ว
  • สามารถเข้าสู่ระบบ (Login) ได้ทั้งการพิมพ์ชื่อผู้ใช้ (Username) และ รหัสผ่าน (Password) หรือ ผ่าน QR Code ได้
  • มีความสามารถของ โปรแกรมจับภาพหน้าจอ ที่ให้คุณได้จับภาพหน้าจอจากส่วนใดก็ได้บนหน้าจอ แล้วสามารถส่งให้เพื่อน หรือเข้ากรุ๊ปกลุ่มสนทนาได้เลยทันที โดยไม่ต้องเซฟลงเครื่องก่อน สะดวกมากๆ สำหรับคนที่ทำงาน และ ต้องประสานงานกัน
  • หลังจากจับภาพหน้าจอเสร็จภายในโปรแกรมแล้ว มีความสามารถของ โปรแกรมแต่งรูป ในการแต่งรูปได้เลย เช่น ใส่ข้อความ ใส่รูปทรงต่างๆ เข้าไปได้เลยเช่น ใส่กรอบสี่เหลี่ยม วงกลม ลากเส้น ใส่ลูกศรเข้าไปได้ เบ็ดเสร็จจากในโปรแกรมเลย
  • สนับสนุน Windows 8 และ Windows 10 ได้อย่างเต็มรูปแบบ
  • มีการแสดงไทม์ไลน์ (Timeline) ว่าเพื่อนอัพรูป หรือ อัพเดทสถานะอะไรอย่างไรบ้าง และแก้ไขข้อมูลบนไทม์ไลน์ ได้อีกด้วย
  • สามารถเลือกได้เฉพาะคนว่าจะแสดง (Shown) หรือซ่อน (Hidden) ไทม์ไลน์ หรือไม่ หากคนไหนไม่ชอบก็ไม่ต้องเลือกให้แสดง
  • ลงทะเบียน LINE for PC ด้วยอีเมล์ครั้งเดียว สามารถใช้ได้กับเครื่องพีซีทุกเครื่อง
  • มีวิธีการ ลงทะเบียนง่ายๆ ไม่ซับซ้อน 

Program Limitations (ข้อจำกัดบางประการของโปรแกรม) :
  • หากมีการส่งข้อความเสียงมา (Voice Messages) เข้ามา จะไม่สามารถเปิดฟังได้ทันที จะต้องเซฟบันทึกลงเครื่องก่อน แล้วใช้โปรแกรม Media Player เปิดเอาอีกที
  • ในโปรแกรม LINE บนเครื่อง PC นี้จะไม่สามารถเปลี่ยนสถานะตรง What's Up ? ได้ ซึ่งจะต้องไปเปลี่ยนจากในแอพ LINE เท่านั้น
  • บางครั้งเปิดหน้าต่างแชทมาแล้วจะไม่สามารถพิมพ์ได้ ต้องปิดหน้าต่างแชทแล้วเปิดหน้าต่างแชทกับคนนั้น หรือกลุ่ม (Group) นั้นใหม่ ถึงจะสามารถพิมพ์คุยต่อได้

Registration Instructions (วิธีการ ลงทะเบียน LINE for PC โดยละเอียด) :
1.       เปิดแอพ LINE ที่เราเล่นอยู่ จากบน โทรศัพท์มือถือ ไม่ว่าจะเป็นจาก Android หรือ iOS ก็ได้
2.      ไปที่เมนู More (สัญลักษณ์จุดจุดจุด) ด้านล่าง -> Setting (สัญลักษณ์รูปฟันเฟือง)
3.      หลังจากนั้นเลือกเมนู Accounts -> Email Registration (หากมันขึ้นว่า Not YET ก็ขอให้กดเข้าไป เพื่อทำการลงทะเบียน)
4.      กรอกอีเมล์ที่จะใช้ลงทะเบียนเพื่อเล่นหรือใช้งาน โปรแกรมแล้วตามด้วยรหัสผ่าน (Password) (ข้อกำหนด ความยาวรหัสผ่าน ระหว่าง 12 ถึง 20 ตัวอักษร)
5.      ดาวน์โหลดโปรแกรม LINE PC จาก Thaiware.com
6.      เปิดโปรแกรม แล้วให้ใช้อีเมล์ พร้อมรหัสผ่าน ที่เรากรอกใส่เข้าไป ตอนลงทะเบียนอีเมล์
7.       เสร็จสิ้นการติดตั้ง (อารมณ์คล้ายๆ กับการเล่น โปรแกรม MSN ในสมัยก่อน แต่ไม่มีบอกว่าใครออนไลน์อยู่เท่านั้นเอง)
หมายเหตุ
  • สำหรับผู้ใช้ Windows 8 การติดตั้งก็ต้องเข้าไปที่ Windows Store และใช้บัญชีที่คุณสมัครไว้กับไมโครซอฟท์ได้เลย หากใครมีบัญชี Hotmail.com หรือ MSN (Windows Live Messenger) ก็สามารถใช้บัญชีนั้น เพื่อนดาวน์โหลดได้เลย



รีวิว สอนการใช้การโปรแกรม Line PC 
ขอบคุณ www.youtube.com


วิธีลงทะเบียน LINE PC พร้อมวิธีติดตั้งใช้งาน LINE บน PC


ขอบคุณ www.youtube.com

Credit  : http://software.thaiware.com/
        : https://www.youtube.com/watch?v=tE4GI18Lu38
        : https://www.youtube.com/watch?v=cJl6ZVvHRuk

วันอังคารที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

Week7 : คอมพิวเตอร์และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์






คอมพิวเตอร์และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์







 ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและเป็นยุคสารสนเทศ ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็สะดวกสบายไปเสียหมด จะติดตามข่าวสารต่างๆ ก็สะดวกสบายขึ้น การติดต่อสื่อสารก็ง่ายขึ้นด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้ทุกอย่างนั้นสะดวกขึ้นเป็นอย่างมาก แม้กระทั่งการทำงานของเราก็สะดวกขึ้น เพราะปัจจุบันนี้ในการทำงานก็มีเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้อง ที่เห็นง่ายๆเลยก็คือการนำคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้ในหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานราชการหรือหน่วยงานเอกชนล้วนแล้วแต่นำคอมพิวเตอร์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการทำงานทั้งนั้น แล้วรู้กันหรือไหมว่า คอมพิวเตอร์ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนั้นมีส่วนประกอบอะไรบ้าง และมีความสำคัญอย่างไร วันนี้เรามารู้จักกับคอมพิวเตอร์กันดีกว่า

คอมพิวเตอร์ คือ อุปกรณ์ที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกและช่วยในการทำงานของมนุษย์ โดยมีการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป  อีกทั้งยังมีความสามารถและประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์ทั้งในด้าน ความเร็วในการประมวลผลข้อมูล และความสามารถในการเก็บข้อมูลมากขึ้น และปลอดภัย

องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์


อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์หลักๆรู้กันมั้ย ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์มีอะไร คอมพิวเตอร์นั้นมีส่วนประกอบหลักๆ อยู่ 4 ส่วนด้วยกัน

1. โปรเซสเซอร์ (Processor) นั่นก็คือหน่วยประผลกลางหรือที่รู้จักกันในนามของซีพียู (CPU) นั่นเอง หรือเรียกว่าซิป ซึ่งส่วนนี้มีความสำคัญมากที่สุดของฮาร์ดแวร์ เพราะว่ามีหน้าที่ในการประมวลผลข้อมูลที่ผู้ใช้ป้อนเข้ามา ซึ่งซีพียูนั้นมีรุ่นต่างๆ ออกมาวางขายตามท้องตลาดมากมาย ซึ่งแต่ละรุ่นก็ราคาแตกต่างกันออกไป

2. หน่วยความจำ (Memory) หรือ RAM นั่นเอง ซึ่ง RAM นั้นเป็นหน่วยความจำหลักที่จำเป็นในการเก็บข้อมูลต่างๆ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าหน่วยความจำสำรองนั่นเอง ก็คือจะเก็บข้อมูลชั่วคราว ซึ่งหน่วยความจำแรมจะทำหน้าที่เก็บชุดคำสั่งและข้อมูลที่ระบบคอมพิวเตอร์กำลังทำงานอยู่ด้วย

3. ส่วนอินพุต/เอาต์พุต (Input/Output) ก็คืออุปกรณ์ที่ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถสัมผัสและรับรู้สิ่งต่าง ๆ เช่น เครื่องอ่านบัตร คีย์บอร์ด เมาส์ สแกนเนอร์ และอุปกรณ์ Output ก็ได้แก่เครื่องพิมพ์ จอภาพ

4.  สื่อจัดเก็บข้อมูล (Storage) นั่นก็คือสื่อที่ใช้ในการจัดเก็บข้อมูล เช่น ฮาร์ดดิสก์ที่ใช้ในการเก็บข้อมูลอุปกรณ์คอมพิวเตอร์

ประเภทของคอมพิวเตอร์

ตามหลักการประมวลผลจำแนกได้เป็น 3 ประเภท คือ
1.คอมพิวเตอร์แบบอนาล็อก (Analog Computer)
เครื่องมือประมวลผลข้อมูลที่อาศัยหลักการวัด (Measuring Principle) ทำงานโดยใช้ข้อมูลที่มีการเปลี่ยนแปลงแบบต่อเนื่อง (Continuous Data) 

2.คอมพิวเตอร์แบบดิจิทัล (Digital Computer)
คอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการทำงานทั่วๆ ไปนั่นเอง เป็นเครื่องมือประมวลผลข้อมูลที่อาศัยหลักการนับทำงานกับข้อมูลที่มีลักษณะ การเปลี่ยนแปลงแบบไม่ต่อเนื่อง (Discrete Data) ในลักษณะของสัญญาณไฟฟ้า หรือ Digital Signal

3.คอมพิวเตอร์แบบลูกผสม (Hybrid Computer)
เครื่องประมวลผลข้อมูลที่อาศัยเทคนิคการทำงานแบบผสมผสาน ระหว่าง Analog Computer และ Digital Computer โดยทั่วไปมักใช้ในงานเฉพาะกิจ โดยเฉพาะงานด้านวิทยาศาสตร์ 

3.1 เครื่องคอมพิวเตอร์เพื่องานเฉพาะกิจ (Special Purpose Computer)
     เครื่องประมวลผลข้อมูลที่ถูกออกแบบตัวเครื่องและโปรแกรมควบคุมให้ทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นการเฉพาะโดยทั่วไปมักใช้ในงานควบคุมหรืองานอุตสาหกรรม

 3.2 เครื่องคอมพิวเตอร์เพื่องานอเนกประสงค์ (General Purpose Computer)
     เครื่องประมวลผลข้อมูลที่มีความยืดหยุ่นในการทำงานโดยได้รับการออกแบบให้สามารถ ประยุกต์ใช้ในงานประเภทต่างๆ ได้โดยสะดวกโดยระบบจะทำงานตามคำสั่งในโปรแกรมที่เขียน ขึ้นมา

 3.3 เครื่องคอมพิวเตอร์เพื่องานอเนกประสงค์ (General Purpose Computer)
    เครื่องประมวลผลข้อมูลที่มีความยืดหยุ่นในการทำงาน (Flexible) โดยได้รับการออกแบบให้สามารถประยุกต์ใช้ในงานประเภทต่างๆได้โดยสะดวกโดยระบบจะทำงานตามคำสั่งที่โปรแกรมที่เขียนขึ้นมา

แบ่งตามความสามารถของระบบ จำแนกออกได้เป็น 4 ชนิด โดยพิจารณาจาก ความสามารถในการเก็บข้อมูล และความเร็วในการประมวลผล เป็นหลัก ดังนี้

1.ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ (Super Computer)
เครื่องประมวลผลข้อมูลที่มีความ สามารถในการประมวลผลสูงที่สุดโดยทั่วไปสร้างขึ้นเป็นการเฉพาะเพื่องานด้าน วิทยาศาสตร์ที่ต้องการการประมวลผลซับซ้อนและต้องการความเร็วสูง

2.เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ (Mainframe Computer)
เครื่องประมวลผลข้อมูลที่มีส่วน ความจำและความเร็วน้อยลงสามารถใช้ข้อมูลและคำสั่งของเครื่องรุ่นอื่นใน ตระกูล (Family) เดียวกันได้โดยไม่ต้องดัดแปลงแก้ไขใดๆนอกจากนั้นยังสามารถทำงานในระบบเครือข่ายได้เป็นอย่างดี 

3.มินิคอมพิวเตอร์ (Mini Computer)
เครื่องมินิคอมพิวเตอร์มีลักษณะพิเศษในการทำงานร่วมกับอุปกรณ์ ประกอบรอบข้างที่มีความเร็วสูงได้มีการใช้แผ่นจานแม่เหล็กความจุสูงชนิดแข็ง (Harddisk) ในการเก็บรักษาข้อมูลสามารถอ่านเขียนข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว 

4.ไมโครคอมพิวเตอร์ (Micro Computer)
เครื่องประมวลผลข้อมูลขนาดเล็กมีส่วนของหน่วยความจำและ ความเร็วในการประมวลผลน้อยที่สุดสามารถใช้งานได้ด้วยคนเดียว จึงมักถูกเรียกว่า คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล 

เครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ จำแนกออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ


1.แบบติดตั้งใช้งานอยู่กับที่บนโต๊ะทำ งาน (Desktop Computer)
2.แบบเคลื่อนย้ายได้ (Portable Computer) สามารถพกพาติดตัวอาศัยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่จากภายนอก ส่วนใหญ่มักเรียกตามลักษณะของการใช้งานว่า Laptop Computer หรือ Notebook Computer

ระบบคอมพิวเตอร์ (Computer System)
ในการใช้คอมพิวเตอร์ทำงานแล้วให้ได้ผลลัพธ์ออกมาตามความต้องการของผู้ใช้งานนั้น ย่อมต้องมีองค์ประกอบที่เรียกว่า ระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาเกี่ยวข้องเสมอ ระบบคอมพิวเตอร์ประกอบด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลายประเภททำงานร่วมกัน โดยมีคำสั่งหรือที่เรียกว่าโปรแกรมเป็นตัวสั่งการให้อุปกรณ์เหล่านั้นทำงานได้ตามที่มนุษย์ต้องการ ดังนั้นเมื่อกล่าวถึงระบบคอมพิวเตอร์สิ่งสำคัญของระบบจึงได้แก่ ฮาร์ดแวร์(hardware) ,ซอฟต์แวร์(software) ,บุคลากร(personnel)


                
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ 

ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ (Computer Network) หมายถึงการนำเครื่องคอมพิวเตอร์มาเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน โดยอาศัยช่องทางการสื่อสารข้อมูล เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ และการใช้ทรัพยากรของระบบร่วมกัน (Shared Resource) ในเครือข่ายนั้นระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ มีองค์ประกอบที่สำคัญ เพื่อการเชื่อมต่อเป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ได้แก่ คอมพิวเตอร์แม่ข่าย ช่องทางการสื่อสาร สถานีงาน และ อุปกรณ์ในเครือข่าย

โครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์ (TOPOLOGY)
การนำเครื่องคอมพิวเตอร์มาเชื่อมต่อกันเพื่อประโยชน์ของการสื่อสารนั้น สามารถกระทำได้หลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละแบบก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป โดยทั่วไปแล้วโครงสร้างของเครือข่ายคอมพิวเตอร์สามารถจำแนกตามลักษณะของการเชื่อมต่อดังต่อไปนี้

1. โครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบบัส (bus topology)
โครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบบัส จะประกอบด้วย สายส่งข้อมูลหลัก ที่ใช้ส่งข้อมูลภายในเครือข่าย เครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่อง จะเชื่อมต่อเข้ากับสายข้อมูลผ่านจุดเชื่อมต่อ เมื่อมีการส่งข้อมูลระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์หลายเครื่องพร้อมกัน จะมีสัญญาณข้อมูลส่งไปบนสายเคเบิ้ล และมีการแบ่งเวลาการใช้สายเคเบิ้ลแต่ละเครื่อง ข้อดีของการเชื่อมต่อแบบบัส คือ ใช้สื่อนำข้อมูลน้อย ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่าย และถ้าเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องใดเครื่องหนึ่งเสียก็จะไม่ส่งผลต่อการทำงานของระบบโดยรวม แต่มีข้อเสียคือ การตรวจจุดที่มีปัญหา กระทำได้ค่อนข้างยากและถ้ามีจำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายมากเกินไป จะมีการส่งข้อมูลชนกันมากจนเป็นปัญหา

http://www.sa.ac.th/elearning/IMAGE6/bus_topology.jpg

 2. โครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบวงแหวน (ring topology)
โครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบวงแหวน มีการเชื่อมต่อระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์โดยที่แต่ละการเชื่อมต่อจะมีลักษณะเป็นวงกลม การส่งข้อมูลภายในเครือข่ายนี้ก็จะเป็นวงกลมด้วยเช่นกัน ทิศทางการส่งข้อมูลจะเป็นทิศทางเดียวกันเสมอ จากเครื่องหนึ่งจนถึงปลายทาง ในกรณีที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องใดเครื่องหนึ่งขัดข้อง การส่งข้อมูลภายในเครือข่ายชนิดนี้จะไม่สามารถทำงานต่อไปได้ ข้อดีของโครงสร้าง เครือข่ายแบบวงแหวนคือ ใช้สายเคเบิ้ลน้อย และถ้าตัดเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เสียออกจากระบบ ก็จะไม่ส่งผลต่อการทำงานของระบบเครือข่ายนี้ และจะไม่มีการชนกันของข้อมูลที่แต่ละเครื่องส่ง

http://www.sa.ac.th/elearning/IMAGE6/ring_topology.jpg

3. โครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบดาว (star topology)
โครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบดาว ภายในเครือข่ายคอมพิวเตอร์จะต้องมีจุดศูนย์กลางในการควบคุมการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์หรือ ฮับ (hub) การสื่อสารระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์จะสื่อสารผ่านฮับก่อนที่จะส่งข้อมูลไปสู่เครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆโครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์ แบบดาวมีข้อดี คือ ถ้าต้องการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ก็สามารถทำได้ง่ายและไม่กระทบต่อเครื่องคอมพิวเตอร์อื่นๆ ในระบบ ส่วนข้อเสีย คือ ค่าใช้จ่ายในการใช้สายเคเบิ้ลจะค่อนข้างสูง และเมื่อฮับไม่ทำงานการสื่อสารของคอมพิวเตอร์ทั้งระบบก็จะหยุดตามไปด้วย

http://www.sa.ac.th/elearning/IMAGE6/STAR.JPG


ข้อแนะนำการดูแลและบำรุงรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์เบื้องต้น
1.  ไม่ควรเปิดฝาเครื่องคอมพิวเตอร์โดยไม่จำเป็น
2.  ไม่ควรตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ไว้ในสถานที่ที่มีอุณหภูมิสูง
3.  ไม่ควรตั้งคอมพิวเตอร์ใกล้กับประตูและหน้าต่าง
4.  ไม่ควรวางจอคอมพิวเตอร์ใกล้กับสนามแม่เหล็ก หรือลำโพงตัวใหญ่ๆ
5.  ถ้าหากที่บ้านไฟตกหรือมีไฟกระชาก ควรมีเครื่องสำรองไฟUSP
6.  ควรตั้งโหมดประหยัดพลังงานให้กับเครื่อง เพื่อถนอมอายุการใช้งานของเครื่อง
7.  ไม่ควรวางของเหลวใกล้กับเครื่องคอมพิวเตอร์
8.  ไม่ควรปิดเครื่องโดยการกดปิดสวิตช์ปิด ควรใช้คำสั่งปิดระบบปฏิบัติการ

หวังว่าข้อมูลในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้ที่เขามาอ่านบล็อค 

Credit by
http://www.thaigoodview.com/library/contest2552/type2/tech03/32/p2.html
: http://www.school.net.th/library/snet1/hardware/network.html




วันพุธที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

Week6 : วิเคราะห์ข้อสอบ O-net วิชาคอมพิวเตอร์ 5 ข้อ


วิเคราะห์ข้อสอบ O-net วิชาคอมพิวเตอร์ 5 ข้อ


1.ข้อใดเป็นจำนวนเลขฐานสองซึ่งมีค่าเท่ากับ 108 (ซึ่งเป็นเลขฐานสิบ)
1. 00100100       2. 01101100
3. 10100000       4. 01101111

เฉลย ข้อ 4

วิธีทำ   – ใช้วิธีหารสั้นด้วยเลข  2
          – นำเศษที่ได้มาเขียนลำดับจากล่างขึ้นบน

คำตอบที่ได้คือ 01101111


2.ข้อใดต่อไปนี้ไม่ใช่ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์
1. Microsoft Windows
2. Ubuntu
3. Symbian
4. MAC Address

เฉลย ข้อ 3
  •  Symbian คือ ระบบปฏิบัติการสำหรับโทรศัพท์เคลื่อนที่ พัฒนาโดยบริษัท Symbian Ltd. โดยออกแบบสำหรับทำงานเฉพาะหน่วยประมวลผล ARM
  • Mac Address หรือ Physical Address เป็นหมายเลขที่ระบุเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา ซึ่งจะซ้ำกันไม่ได้ สามารถตรวจสอบ
  • Ubuntu คือกลุ่มของคนที่พัฒนาระบบปฏิบัติการ เพื่อให้สามารถนำไปใช้กับ เครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งที่เป็นเครื่องแบบผู้ใช้งานทั่วไป (Client) หรือแบบเครื่องแม่ข่าย (Server) เหมาะกับผู้ใช้ตามบ้าน และโรงเรียนที่ไม่ต้องการมีค่าใช้จ่ายเรื่องซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์ โดยมีการรวมเอาโปรแกรมประยุกต์ประเภทเวิร์ด หรือเพาเวอร์พอยต์ อินเทอร์เน็ตไว้ด้วย
  • Microsoft Windows เป็นระบบปฏิบัติการ ซึ่งพัฒนาโดยบริษัทไมโครซอฟท์ เปิดตัวเมื่อปี พ.ศ. 2528 (ค.ศ. 1985) และครองความนิยมในตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล


3.ข้อใดคือการสั่งซื้อสินค้าและบริการผ่านทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
1. E-News
2. E-Payment
3. E-Learning
4. E-Sourcing

เฉลย ข้อ 2
  • Electronic Payment system (ระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์) คือ กระบวนการส่งมอบหรือโอนสื่อการชำระเงินเพื่อชำระราคา   โดยผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น อินเทอร์เน็ต คอมพิวเตอร์ ระบบสื่อสารโทรคมนาคม โทรสาร โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น
  • Electronic Learning คือ การเรียน การสอนในลักษณะ หรือรูปแบบใดก็ได้ ซึ่งการถ่ายทอดเนื้อหานั้น กระทำผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น ซีดีรอม เครือข่ายอินเทอร์เน็ต อินทราเน็ต หรือ ทางสัญญาณโทรทัศน์ หรือ สัญญาณดาวเทียม (Satellite) ฯลฯ เป็นต้น
  • Electronic sourcing คือกระบวนการจัดซื้อจัดหาทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นการสั่งซื้อสินค้าและบริการผ่านทางอินเทอร์เน็ต
  • Electronic news คือหนังสือพิมพ์ระบบอิเล็กทรอนิกส์ เป็นการเสนอข่าวสารในรูปแบบหนังสือพิมพ์ทั่วไปโดยผ่านระบบอินเตอร์เน็ต


4.ข้อใดเป็นระบบปฏิบัติการทั้งหมด
1. Unix , Mac OS , Microsoft Office
2. Linux , Windows , Mac OS , Symbian
3. PDA , WWW , Linux , Windows
4. BIOS , Symbian , IPX , RAM

เฉลย ข้อ2

ระบบปฏิบัติการเป็นโปรแกรม (Software) ที่ทําหน้าที่ ควบคุมการทํางานของ เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่ต่อพ่วงกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งระบบปฏิบัติการจะทําหน้าที่เป็นตัวกลางในการติดต่อกับฮาร์ดแวร์ของ เครื่องโดยตรงและโปรแกรมการใช้งานต่าง ๆ เช่น ระบบปฏิบัติการ DOS (Disk Operating System), Microsoft Windows,Symbian, Linux, Mac OS

5.ทำไมจึงมีการใช้งานระบบเครือข่ายการสื่อสารไร้สายเพิ่มมากขึ้นในประเทศที่กำลังพัฒนา
1. อุปกรณ์เชื่อมต่อเครือข่ายไร้สายมีราคาถูก
2. หาซื้ออุปกรณ์เชื่อมต่อเครือข่ายไร้สายได้ง่าย
3. ใช้งบลงทุนสูงในการวางสายระบบเครือข่ายสื่อสาร
4. สะดวกในการเคลื่อนย้ายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายการสื่อสาร

เฉลย ข้อ 4
การใช้งานระบบเครือข่ายการสื่อสารไร้สายเพิ่มมากขึ้นในประเทศที่กำลังพัฒนา เพราะ สะดวกในการเคลื่อนย้ายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายการสื่อสาร และลดต้นทุนในการขนส่งอุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่ออีกด้วย

หวังว่าจะได้ความรู้มากขึ้นจากการลองทำข้อสอบครั้งนี้ 

Credit : http://www.thaigoodview.com/node/21777
         : http://maui.hawaii.edu/tlc/testing/